การแลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชีทางการเงินแบบอัตโนมัติ (Automatic Exchange of Financial Account Information: AEOI) เป็นการดำเนินการตามมาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชีทางการเงินแบบอัตโนมัติ (Common Reporting Standard: CRS) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับ โดยสากล ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นโดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organization of Economic Co-operation and Development: OECD) เพื่อต่อต้านการหลีกเลี่ยงภาษี ทั้งนี้ AEOI อ้างถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชีทางการเงินระหว่างประเทศอย่างสม่ำเสมอ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยับยั้งและตรวจพบการหลีกเลี่ยงภาษีโดยผู้มีหน้าที่เสียภาษีผ่านการใช้บัญชีธนาคารในต่างประเทศ
บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย และ/หรือบริษัทร่วม (ต่อไปจะเรียกว่า “บริษัท”) ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับที่เกี่ยวข้องของประเทศทั้งหมดที่บริษัทดำเนินธุรกิจและข้อบังคับเกี่ยวกับ AEOI มีผลบังคับใช้
บริษัทต้องเก็บข้อมูลบางเรื่องและเอกสารอ้างอิงจากลูกค้าเพื่อกำหนดถิ่นที่อยู่ทางภาษีและ (หากสามารถปฏิบัติได้) สถานะการจัดประเภท เพื่อการปฏิบัติตามข้อบังคับที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการด้าน AEOI ทั้งนี้ ในบางเหตุการณ์บริษัทอาจจำเป็นต้องรายงานข้อมูลดังกล่าวแก่หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ทางภาษีที่เกี่ยวข้อง และข้อมูลดังกล่าวอาจถูกแลกเปลี่ยนหรือรายงานแก่หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ทางภาษีที่เกี่ยวข้องในประเทศอื่นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
บริษัทถือเป็นผู้มีหน้าที่รายงานข้อมูลบัญชีทางการเงินของลูกค้าที่มีถิ่นที่อยู่ทางภาษีในรัฐคู่สัญญา ดังนั้น เมื่อลูกค้ามีการสมัครทำประกันชีวิต กฎหมาย (กฎกระทรวงออกตามความพระราชกำหนดการแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร พ.ศ. 2566) กำหนดให้บริษัทต้องจัดให้ได้มาซึ่งเอกสารการรับรองตนเอง เพื่อบริษัทสามารถพิจารณาถิ่นที่อยู่เพื่อจุดประสงค์ทางภาษีอากรของลูกค้าได้ และต้องสามารถยืนยันความน่าเชื่อถือของเอกสารการรับรองตนเองดังกล่าวจากข้อมูลที่บริษัทได้รับมาจากการสมัครทำประกันชีวิตดังกล่าว
โปรดกรอกเอกสารการรับรองตนเองฉบับนี้ หากท่านเป็นผู้ถือบัญชี ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษาคำนิยามเพิ่มเติมของผู้ถือบัญชีได้ในหัวข้อ“คำนิยาม”
ถิ่นที่อยู่ทางภาษีถูกนิยามตามกฎหมายด้านภาษีของแต่ละประเทศและอาจมีความแตกต่างกัน บุคคลหนึ่งจึงอาจมีถิ่นที่อยู่ทางภาษีมากกว่า 1 ประเทศได้ ดังนั้น ท่านต้องนำส่งข้อมูลในเอกสารฉบับนี้อย่างถูกต้องและครบถ้วนแก่บริษัท ทั้งนี้ บริษัทไม่สามารถให้คำแนะนำด้านภาษี แก่ท่านได้ หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสถานะทางถิ่นที่อยู่ทางภาษีหรือประเด็นที่เกี่ยวข้อง ท่านสามารถปรึกษาผู้แนะนำด้านภาษีหรือติดต่อหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ทางภาษีที่เกี่ยวข้องเพื่อขอคำแนะนำ นอกจากนี้ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับถิ่นที่อยู่ทางภาษีได้ที่ http://www.oecd.org/tax/automatic-exchange/crs-implementation-and-assistance/tax-residency/
โปรดกรอกเอกสารการรับรองตนเอง หากท่านเป็นผู้ถือบัญชีซึ่งสมัครทำประกันภัยหรือเปิดบัญชีกองทุน โดยเอกสารการรับรองตนเองสามารถใช้ได้จนกว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติการณ์ ซึ่งอาจส่งผลให้ข้อมูลในเอกสารการรับรองตนเองไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน (เช่น การเปลี่ยนแปลงประเทศที่ท่านมีถิ่นที่อยู่ทางภาษี หรือหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี) ในกรณีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติการณ์ ท่านต้องส่งเอกสารการรับรองตนเองฉบับใหม่ที่ถูกต้องมายังบริษัทภายใน 30 วันนับตั้งแต่เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติการณ์
รายการคำนิยามต่อไปนี้เป็นเพียงตัวอย่างเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ท่านในการกรอกเอกสารการรับรองตนเองฉบับนี้ หากท่านมีข้อสงสัย โปรดติดต่อผู้แนะนำด้านภาษี ด้านกฎหมาย และ/หรือด้านอื่น ๆ ของท่าน
ผู้ถือบัญชี หมายถึง บุคคลซึ่งเป็นลูกค้าที่มีชื่อหรือถูกระบุชื่อเป็นผู้ถือบัญชีทางการเงินโดยสถาบันการเงินที่ดูแล เก็บรักษาบัญชีนั้น
นอกเหนือจากสถาบันการเงิน ในกรณีที่ตัวแทน ผู้รักษาสินทรัพย์ นอมินี ผู้มีอำนาจในการลงนาม ที่ปรึกษาการลงทุน หรือตัวกลาง เป็นผู้ถือบัญชีทางการเงินเพื่อประโยชน์หรือเพื่อบุคคลอื่น ไม่ให้ถือว่าบุคคคลดังกล่าวเป็นผู้ถือบัญชีตามวรรคหนึ่ง แต่ให้ถือว่าบุคคลอื่นนั้นเป็น ผู้ถือบัญชีตามวรรคหนึ่ง
ในกรณีสัญญาประกันภัยแบบมูลค่าเงินสดหรือแบบจ่ายรายปี ให้ผู้ถือบัญชีตามวรรคหนึ่ง ได้แก่ บุคคลที่มีสิทธิเข้าถึงมูลค่าเงินสดหรือ มีสิทธิเปลี่ยนแปลงผู้รับผลประโยชน์ตามสัญญาดังกล่าว ทั้งนี้ หากไม่มีบุคคลใดสามารถเข้าถึงมูลค่าเงินสดหรือเปลี่ยนแปลงผู้รับประโยชน์ ตามสัญญาดังกล่าวนั้นได้ ให้ผู้ถือบัญชีตามวรรคหนึ่ง ได้แก่ บุคคลใด ๆ ที่มีการระบุชื่อในสัญญาว่าเป็นเจ้าของบัญชี และบุคคลใด ๆ ที่มีสิทธิ ในเงินที่จ่ายภายใต้เงื่อนไขของสัญญาดังกล่าวนั้น
ในกรณีเมื่อครบกำหนดสัญญาประกันภัยแบบมูลค่าเงินสดหรือแบบจ่ายรายปี ให้ถือว่าบุคคลแต่ละรายที่มีสิทธิได้รับเงินตามสัญญาเป็น ผู้ถือบัญชีตามวรรคหนึ่ง
ผู้มีอำนาจควบคุม หมายถึง
ผู้มีอำนาจควบคุมตามวรรคหนึ่งให้ตีความในลักษณะที่สอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปรามปรามการฟอกเงินของประเทศไทย
บัญชีทางการเงิน หมายถึง บัญชีที่อยู่ภายใต้การดูแล เก็บรักษาของสถาบันการเงิน และให้หมายความรวมถึง
บัญชีทางการเงินตามวรรคหนึ่ง ไม่ให้หมายรวมถึงบัญชีที่ได้รับยกเว้น
คู่สัญญาที่เข้าร่วม หมายถึง รัฐหรือภาคีตามความตกลงที่มีรายชื่อปรากฏตามประกาศกระทรวงการคลังว่าด้วยรายชื่อคู่สัญญาที่เข้าร่วมที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
บัญชีทางการเงินที่ต้องถูกรายงาน หมายถึง บัญชีทางการเงินที่อยู่ภายใต้การดูแล เก็บรักษาของผู้มีหน้าที่รายงานที่เป็นสถาบันการเงิน ซึ่งถูกถือโดยผู้ที่ต้องถูกรายงานรายเดียวหรือหลายราย หรือโดยแพสซิฟเอ็นเอฟอี ซึ่งมีผู้มีอำนาจควบคุมรายเดียวหรือหลายรายเป็นผู้ที่ต้องถูกรายงาน
คู่สัญญาที่จะได้รับรายงาน หมายถึง รัฐหรือภาคีตามความตกลงที่มีรายชื่อปรากฏตามประกาศกระทรวงการคลังว่าด้วยรายชื่อคู่สัญญาที่จะได้รับรายงานที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ผู้ที่ต้องถูกรายงาน หมายถึง ผู้ที่ต้องถูกรายงานของคู่สัญญา และไม่ให้หมายความรวมถึง
หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี หมายถึง หมายเลขประจำตัวของผู้เสียภาษี หรือสิ่งที่ใช้แทน ในกรณีที่ไม่มีหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี
สถาบันการเงิน หมายถึง สถาบันผู้รับฝากสินทรัพย์ สถาบันรับฝากเงิน นิติบุคคลที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการลงทุน หรือบริษัทประกันที่กำหนด
สถาบันผู้รับฝากสินทรัพย์ หมายถึง นิติบุคคลใด ๆ ที่ประกอบธุรกิจหลัก เป็นการถือสินทรัพย์ทางการเงินเพื่อผู้อื่น
ในกรณีที่จะถือว่าเป็นการประกอบธุรกิจหลักเป็นการถือสินทรัพย์ทางการเงิน เพื่อผู้อื่นตามวรรคหนึ่ง นิติบุคคลนั้นต้องมียอดรวมรายได้ที่มาจากการถือสินทรัพย์ทางการเงิน เพื่อผู้อื่น และการให้บริการทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการถือสินทรัพย์ทางการเงินนั้น ตั้งแต่ร้อยละ 20 ของรายได้รวมของนิติบุคคล ในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่งที่สั้นกว่า ดังต่อไปนี้
สถาบันรับฝากเงิน หมายถึง นิติบุคลใด ๆ ที่รับฝากเงินเป็นปกติธุระ ในลักษณะของธุรกิจธนาคารหรือธุรกิจอื่นที่มีลักษณะเดียวกัน
นิติบุคคลที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการลงทุน หมายถึง นิติบุคคลใด ๆ ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้
นิติบุคคลที่ดำเนินกิจการเพื่อการลงทุนตามวรรคหนึ่ง ไม่ให้หมายความรวมถึงนิติบุคคลที่เป็นแอ็กทิฟเอ็นเอฟอี เนื่องจากนิติบุคคลดังกล่าวเข้าลักษณะตามหลักเกณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่งใน 4. ถึง 7. ของนิยามคำว่า “แอ็กทิฟเอ็นเอฟอี”
ทั้งนี้ การตีความตามวรรคนี้ ต้องตีความให้สอดคล้องกับนิยามของคำว่า “สถาบันการเงิน” ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินของประเทศไทย
บริษัทประกันที่กำหนด หมายถึง นิติบุคคลใด ๆ ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิตที่ออกกรมธรรม์หรือมีภาระที่ต้องชำระเงินตามกรมธรรม์ประกันที่มีมูลค่าเงินสดหรือกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบรายปีหรือที่เรียกว่า แบบบำนาญ
นิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน หมายถึง นิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับ นิติบุคคลอื่น ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้
ทั้งนี้ อำนาจควบคุมตามวรรคหนึ่งให้หมายความรวมถึงการมีความเป็นเจ้าของ โดยทางตรงหรือทางอ้อมเกินกว่าร้อยละ 50 ของสิทธิออกเสียงและมูลค่าในนิติบุคคล
เอ็นเอฟอี หมายถึง นิติบุคคลที่มิได้เป็นสถาบันการเงิน
แอ็กทิฟเอ็นเอฟอี หมายถึง เอ็นเอฟอีที่เป็นไปตามข้อกำหนดข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
1. มีรายได้จากธุรกรรมทางการเงินเป็นจำนวนน้อยกว่าร้อยละ 50 ของเงินได้ทั้งหมดของเอ็นเอฟอีในปีปฏิทินก่อนหน้าหรือระยะเวลารายงานที่เหมาะสมอื่นใด และสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดหรือถือไว้เพื่อก่อให้เกิดรายได้จากธุรกรรมทางการเงินเป็นจำนวนน้อยกว่าร้อยละ 50 ของสินทรัพย์ทั้งหมดที่ถือโดยเอ็นเอฟอีในระหว่างปีปฏิทินก่อนหน้าหรือระยะเวลารายงานที่เหมาะสมอื่นใด
2. หุ้นของเอ็นเอฟอีมีการซื้อขายตามปกติในตลาดซื้อขายหลักทรัพย์ที่จัดตั้ง หรือหุ้นของนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กันกับเอ็นเอฟอีดังกล่าว มีการซื้อขายตามปกติในตลาดซื้อขายหลักทรัพย์ที่จัดตั้ง
3. เอ็นเอฟอีเป็นหน่วยงานของรัฐบาล องค์การระหว่างประเทศ ธนาคารกลาง หรือนิติบุคคลที่เป็นของหน่วยงานที่กล่าวมาข้างต้น
4. เอ็นเอฟอีมีกิจการหลักที่สำคัญ ดังนี้
5. เอ็นเอฟอีที่ยังไม่ได้ดำเนินธุรกิจและไม่มีประวัติในการดำเนินธุรกิจมาก่อน แต่มีการนำทุนไปลงทุนในสินทรัพย์โดยมีเจตนาที่จะดำเนินธุรกิจอย่างอื่นนอกจากการเป็นสถาบันการเงิน โดยเอ็นเอฟอีไม่ได้มีคุณสมบัติตามอนุวรรคนี้ภายหลังระยะเวลา 24 เดือน นับจากวันที่ก่อตั้งเอ็นเอฟอีดังกล่าว
6. เอ็นเอฟอีที่ไม่เคยเป็นสถาบันการเงินภายในระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมา และอยู่ ในกระบวนการขายทรัพย์สินเพื่อชำระบัญชีหรือฟื้นฟูกิจการ โดยมีเจตนาที่จะดำเนินธุรกิจต่อหรือ เริ่มธุรกิจที่มิใช่ธุรกิจของสถาบันการเงิน
7. เอ็นเอฟอีที่ดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือทางการเงินหรือ การป้องกันความเสี่ยงกับ หรือเพื่อนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กันที่มิใช่สถาบันการเงิน โดยที่กลุ่มของนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กันนั้นต้องดำเนินธุรกิจหลักที่มิใช่ธุรกิจของสถาบันการเงิน และไม่ได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินหรือการป้องกันความเสี่ยงแก่นิติบุคคลใดซึ่งมิใช่นิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน
8. เอ็นเอฟอีมีคุณสมบัติเป็นไปตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้
แพสซิฟเอ็นเอฟอี หมายถึง
ในกรณีผู้รับประโยชน์ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา จากการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนมรณกรรมกรณีเสียชีวิตของผู้เอาประกันภัย กำหนดให้บริษัทต้องจัดให้ได้มาซึ่งเอกสารการรับรองตนเอง เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาถิ่นที่อยู่ทางภาษีของผู้รับประโยชน์ โดยบริษัทอาจสันนิษฐานได้ว่า บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นผู้รับประโยชน์จากการเสียชีวิตของผู้ถือกรมธรรม์ซึ่งเป็นสัญญาประกันภัยมูลค่าเงินสดหรือสัญญาประกันชีวิตแบบเงินรายปี ไม่เป็นผู้ที่ต้องถูกรายงาน และอาจถือว่าบัญชีทางการเงินดังกล่าวเป็นบัญชีที่ไม่ต้องถูกรายงาน เว้นแต่บริษัททราบหรือควรทราบว่าผู้รับประโยชน์เป็นผู้ที่ต้องถูกรายงาน หากบริษัทมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้รับผลประโยชน์ที่มีข้อบ่งชี้ทั้ง 6 ข้อตามกฎกระทรวงฯ
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การพิจารณาเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด