บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และ บริษัทในเครือ หมายรวมถึง บริษัทหรือองค์กรอื่นใดที่ควบคุมถูกควบคุม หรืออยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท ซึ่งอาจมีผู้ถือหุ้นหรือกรรมการส่วนใหญ่เป็นชุดเดียวกัน (ซึ่งต่อไปนี้รวมเรียกว่า “บริษัท”) บริษัทเคารพสิทธิในความเป็นส่วนตัวของท่าน และมุ่งมั่นที่จะดำเนินการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเคร่งครัด บริษัทจึงจัดให้มีคำแถลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เพื่อท่านได้รับทราบถึงนโยบายของบริษัทเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ท่านในเรื่องของวิธีการ ขั้นตอนในการเก็บรวบรวม การใช้ การประมวลผล การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิของท่าน การรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และวิธีการที่ท่านสามารถติดต่อบริษัท ทั้งนี้ บริษัทขอแนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจคำแถลงฉบับนี้
1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ท่านให้ข้อมูลนั้นต่อบริษัท ในการนี้ เรามีความมุ่งหมายที่จะรวบรวมเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็น หรือ เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย การทำสัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น และ/หรือการรับบริการหรือบริการเสริมจากบริษัทเท่านั้น
ในกรณีที่ท่านไม่ให้ความยินยอม หรือเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล อาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการเข้าทำธุรกรรมของท่านได้ หรือบริษัทอาจให้บริการท่านได้อย่างจำกัด หรือท่านอาจไม่ได้รับความสะดวกในการใช้บริการของบริษัท
กรณีที่ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นใดแก่บริษัท ท่านรับรองและยืนยันความถูกต้องในรายละเอียดของข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าว และได้แจ้งรายละเอียดของประกาศฉบับนี้ก่อนหรือในขณะที่ท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลนี้แก่บริษัท
บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อท่านสมัครเพื่อเข้าใช้บริการ เมื่อท่านซื้อผลิตภัณฑ์หรือเมื่อท่านได้รับการบริการหรือได้ใช้บริการใดจากบริษัท อันได้แก่ ข้อมูลดังต่อไปนี้
1.1 ข้อมูลที่บริษัท ได้รับจากท่านเมื่อท่านลงทะเบียนหรือกรอกข้อมูลในใบสมัครหรือแบบฟอร์มอื่น ๆ เพื่อรับ หรือขอใช้บริการผลิตภัณฑ์/บริการของบริษัท เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวอื่น ๆ หมายเลขโทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด เพศ ที่อยู่ไปรษณีย์ อีเมล รูปภาพ ข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานและประวัติการทำงานของท่าน ข้อมูลสุขภาพ ลายมือชื่อ เป็นต้น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับใบสมัคร/แบบฟอร์มที่ท่านกรอก
1.2 ข้อมูลทางการเงิน เช่น รายได้ แหล่งที่มาของรายได้ ข้อมูลเกี่ยวกับภาษี เลขบัญชีธนาคาร รายละเอียดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร รายละเอียดเกี่ยวกับบัตรเครดิต รายละเอียดเกี่ยวกับเงินกู้ ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน และรายละเอียดเกี่ยวกับการชำระเงินอื่น ๆ
1.3 ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการดำเนินคดีความทางแพ่งหรืออาญาของท่าน เช่น ประวัติอาชญากรรม บันทึกเกี่ยวกับการดำเนินคดีไม่ว่าทางแพ่ง หรือ การดำเนินคดีอื่น ๆ รวมถึงรายงานของพนักงานสอบสวน และคำสั่งศาล
1.4 รายละเอียดผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ที่ท่านเคยซื้อหรือได้รับจากบริษัท หรือบริษัทอื่น ๆ เช่น หมายเลขกรมธรรม์ จำนวนเงินเอาประกันภัย การเปลี่ยนแปลง/การทำธุรกรรมเกี่ยวกับกรมธรรม์ วิธีการชำระเบี้ยประกันภัย ประวัติการชำระเบี้ยประกันภัย หรือประวัติเกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน ผู้รับประโยชน์ ชื่อผู้ชำระเบี้ยประกันภัย การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
1.5 สถานะเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนเงินแก่การก่อการร้าย และ สถานะล้มละลาย กฎหมายสหรัฐอเมริกาว่าด้วยการป้องกันมิให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่มีสถานะเป็นบุคคลอเมริกันหลีกเลี่ยงภาษี (Foreign Account Tax Compliance Act: FATCA)
1.6 ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมของท่านกับบริษัท เช่น ข้อมูลการสมัครงาน ข้อมูลการสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต ข้อมูลการเข้าเสนอราคา ข้อมูลกรมธรรม์ ข้อมูลความคุ้มครองของกรมธรรม์ เบี้ยประกันภัย ข้อมูลการซื้อผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่าย และประวัติการชำระเงินซึ่งรวมถึงข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต หมายเลขบัญชีธนาคารหรือข้อมูลการธนาคารหรือการชำระเงินอื่น ๆ รวมทั้งวันที่และเวลาที่ชำระเงิน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประเภทของการทำธุรกรรมของท่าน
1.7 ข้อมูลจากการเข้าชมเว็บไซต์ www.bangkoklife.com หรือแอปพลิเคชันที่บริษัท เป็นผู้ดำเนินการ ข้อมูลการใช้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันของบริษัท ข้อมูลการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) และการโต้ตอบกับโฆษณาออนไลน์ของบริษัท เช่น รุ่นและประเภทของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้เปิดดูเว็บ (Browser type and version) ประเภทของอุปกรณ์ที่ท่านใช้เพื่อเข้าถึงการบริการ (เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล แล็ปท๊อป หรือสมาร์ทโฟน) ข้อมูลประเภทระบบการปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม IP (Internet Protocol) address ของอุปกรณ์หรือเครื่องมือปลายทาง ข้อมูล Location ข้อมูลเกี่ยวกับการบริการและผลิตภัณฑ์ที่ท่านเข้าชมหรือค้นหา
1.8 บันทึกการติดต่อของท่านกับบริษัท ซึ่งเก็บในรูปแบบของบันทึกข้อความของผู้รับบริการ การประเมินความพึงพอใจ การวิจัยและสถิติ หรือ การบันทึกเสียงสนทนา หมายเลขผู้โทรศัพท์เข้า หรือการบันทึกภาพ (และการบันทึกภาพและเสียงในบางกรณี) ผ่านกล้องรักษาความปลอดภัย (CCTV) เมื่อท่านติดต่อกับศูนย์บริการลูกค้าของบริษัท รวมไปถึงการให้ข้อมูลผ่านสื่อต่างๆ เช่น SMS Social Media แอปพลิเคชัน และอีเมล เป็นต้น
1.9 ข้อมูลที่ท่านให้ไว้กับบริษัท เมื่อท่านมีการขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ หรือเพื่อให้บริษัท ติดต่อท่านกลับไป
1.10 ข้อมูลสำหรับการติดต่อและข้อมูลอื่น ๆ เช่น ชื่อ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวอื่น ๆ หมายเลขโทรศัพท์ รวมทั้งข้อมูลประชากร (Demographic information) ที่เกี่ยวกับท่านที่ท่านได้แจ้งต่อบริษัท เมื่อท่านตกลงเข้าร่วมกิจกรรม การแข่งขัน การจับฉลากชิงโชค แคมเปญ หรือการสำรวจการวิจัย
1.11 ข้อมูลโปรไฟล์สื่อสังคมออนไลน์ของท่านเมื่อท่านใช้ข้อมูลและรหัสการเข้าระบบของสื่อสังคมออนไลน์ (Social media credential) เช่น Facebook Twitter และ Line เพื่อเชื่อมต่อหรือเข้าสู่บริการใด ๆ ของบริษัท เช่น บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ (Social media account ID) สิ่งที่สนใจ (Interests) รายการที่ชอบ (Likes) และรายชื่อเพื่อนของท่าน ท่านสามารถควบคุมการจัดเก็บความเป็นส่วนตัวนี้ผ่านการตั้งค่าบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่จัดทำไว้ให้โดยผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ของท่าน
1.12 ข้อมูลที่ท่านให้ไว้กับบริษัท เมื่อสร้างบัญชีออนไลน์ หรือบัญชีของแอปพลิเคชัน โดยทั่วไปบริการเหล่านี้กำหนดไว้สำหรับเจ้าของที่ลงทะเบียนเท่านั้น หากท่านเลือกที่จะให้บุคคลอื่น เช่น สมาชิกในครอบครัวหรือตัวแทนของท่านใช้บัญชีของท่าน ท่านควรให้บุคคลนั้น ๆ ศึกษานโยบายนี้อย่างละเอียด
1.13 ในกรณีที่ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอกแก่เรา (ซึ่งบุคคลภายนอกดังกล่าว รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงผู้เอาประกันภัย บุคคลที่ท่านไว้วางใจ สมาชิกในครอบครัว หรือผู้รับประโยชน์) ท่านรับรองและรับประกันความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และรับรองว่าท่านได้แจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบอย่างครบถ้วนแล้วเกี่ยวกับรายละเอียดตามคำแถลงด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และได้รับความยินยอมจากบุคคลภายนอกดังกล่าวก่อนการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแล้ว ยกเว้นเท่าที่กฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับ ไม่ได้กำหนดให้ต้องได้รับความยินยอมนั้น
1.14 ในกรณีที่ท่านประสงค์คำนวณเบี้ยประกันภัยเบื้องต้น ผ่านระบบสำหรับนายหน้าบุคคล (ธนาคาร) เพื่อจัดทำเอกสารเสนอขายและใบคำขอเอาประกันชีวิตแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Smart Banc) โดยอาศัยข้อมูลที่สามารถทำให้ระบุตัวตนของท่านได้ (เช่น ชื่อ-นามสกุล รหัสประจำตัวประชาชน ช่องทางการติดต่อ ฯลฯ) บริษัทจะใช้ข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ในการคำนวณเบี้ยประกันภัย รวมถึงจัดเก็บข้อมูลของท่านไว้ในระบบของบริษัท เพื่อวัตถุประสงค์ในการเข้าทำสัญญา หรือเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น
1.15 ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ตามที่กฎหมายระบุให้ต้องขอความยินยอมจากท่านก่อนทำการเก็บรวบรวม บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบและขอความยินยอมจากท่านก่อนทำการเก็บข้อมูล หรือตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
2. วิธีการเก็บรวบรวมหรือการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยกระบวนการดังต่อไปนี้
2.1 ข้อมูลที่ท่านเป็นผู้ส่งมอบให้ เช่น ข้อมูลที่ท่านใช้ในการสมัครลงทะเบียนหรือสร้างโปรไฟล์กับเราเพื่อเข้าใช้บริการของบริษัท หรือข้อมูลที่ท่านให้ไว้กับบริษัท ในใบคำขอเอาประกันชีวิต รวมถึงเอกสารประกอบใบคำขอเอาประกันชีวิต แบบฟอร์มขอใช้บริการ หรือขอข้อมูลจากบริษัท รวมถึงเอกสารประกอบคำขอ/แบบฟอร์มที่ท่านส่งมอบให้แก่บริษัท ตลอดจนข้อมูลที่บริษัทได้จากท่านเมื่อมีการทำแบบสำรวจลูกค้าโดยความสมัครใจ หรือการให้ข้อเสนอแนะหรือข้อคิดเห็น (Feedback) ผ่านทางกระดาษ โทรศัพท์ ข้อความ กระดานข้อความ (Message board) หรือทางอีเมล ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้สำหรับการคำนวณเบี้ยประกันภัยเบื้องต้นผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัท (Smart BANC) และ/หรือ
2.2 ข้อมูลที่ถูกจัดเก็บโดยอัตโนมัติเมื่อท่านเข้าใช้บริการของบริษัท ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่าคุกกี้ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้ (คลิก) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน เช่น ข้อมูลกิจกรรมการใช้แอปพลิเคชันของบริษัทบนมือถือท่าน (Mobile application activity) และบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ (Mobile device type) ที่ท่านใช้เพื่อเข้าถึงบริการของบริษัท
2.3 ข้อมูลเกี่ยวกับท่านที่บริษัท ได้รับจากบริษัทในเครือและจากบุคคลที่สามที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับการให้บริการ เช่น ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ที่มีการเชื่อมต่อกับบริการของบริษัท โรงพยาบาล และ/หรือพันธมิตรทางธุรกิจ หรือผู้ให้บริการอื่น ๆ
2.4 ข้อมูลที่บริษัทได้รับเกี่ยวกับตัวท่านจากบุคคลภายนอก จากข้อมูลสาธารณะ (Public records) และที่ไม่ใช่ข้อมูลสาธารณะ (Non-public records)
2.5 ข้อมูลที่ท่านติดต่อกับบุคลากร เจ้าหน้าที่บริการลูกค้า พนักงานขาย ตัวแทน นายหน้า คนกลางประกันภัย คู่ค้าหรือพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ให้บริการภายนอก หรือบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องของบริษัท และผู้แทนไม่ว่ารายใด ๆ ของบุคคลหรือหน่วยงานดังกล่าว ผ่านทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน สื่อสังคมออนไลน์ โทรศัพท์ อีเมล การพบปะกันโดยตรง การสัมภาษณ์ SMS โทรสาร ไปรษณีย์ หรือโดยวิธีการอื่น ๆ
2.6 ข้อมูลที่ได้รับจากหน่วยงานภาครัฐ และ/หรือ หน่วยงานกำกับดูแลที่ใช้อำนาจตามกฎหมาย
2.7 เมื่อท่านเข้าใช้อาคารสำนักงาน บริษัทมีการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรงด้วยกระบวนการแลกบัตร เพื่อประมวลผลข้อมูลจากเอกสารยืนยันตัวตน (เช่น ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขใบอนุญาตขับขี่ วัน เดือน ปีเกิด ที่อยู่ เป็นต้น) ทั้งนี้บริษัทไม่มีวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวที่ปรากฏบนเอกสารยืนยันต่างๆ ทุกประเภท
2.8 เมื่อทานเข้าสู่พื้นที่ของอาคารสำนักงาน บริษัทมีการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลจากการทำกิจกรรมของท่าน บริษัทมีการบันทึกภาพ (และในบางกรณีมีการบันทึกภาพและเสียง) จากกล้องวงจรปิด บริเวณภายในและโดยรอบอาคารสำนักงานของบริษัท
ในกรณีดังกล่าว เงื่อนไขการให้บริการของบริษัท จะระบุถึงกิจกรรมที่ต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นการเฉพาะสำหรับการรับบริการนั้น ๆ ทั้งนี้ เมื่อท่านสมัครเข้าใช้บริการใดบริการหนึ่งของเราแล้ว ท่านจะมีโอกาสในการตรวจสอบเงื่อนไขของการให้บริการก่อน และบริษัทจะถามความสมัครใจของท่านในการยินยอมตกลงเงื่อนไขดังกล่าว ตามที่กฎหมายกำหนด
การที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลบางประเภท การไม่ให้ความยินยอม และ/หรือ ยกเลิกการให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูล อาจส่งผลให้ทางบริษัทไม่สามารถดำเนินการตามคำขอของท่านหรือให้บริการแก่ท่านได้ หรือดำเนินการได้จำกัด
3. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้เมื่อท่านเข้าทำสัญญากับบริษัท หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น ซื้อผลิตภัณฑ์ที่บริษัทจำหน่าย เยี่ยมชมหรือใช้บริการของบริษัท เพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ที่ท่านให้ข้อมูลและเพื่อส่งเสริมการเพิ่มประสบการณ์ที่ดีระหว่างบริษัทและท่าน บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
3.1 การดำเนินการเพื่อพิจารณารับประกันตามคำขอเอาประกันชีวิต หรือ คำขอเอาประกันภัยกลุ่มของท่าน การดำเนินการเพื่อการประกันภัยต่อสำหรับผลิตภัณฑ์ของบริษัท
3.2 การดำเนินการเพื่อการจ่ายเงินผลประโยชน์ และสินไหม แก่ท่าน
3.3 การให้บริการแก่ท่าน และการปรับปรุงสินค้าและการบริการของบริษัท รวมไปถึงถึงการดูแล การจัดการ และการดำเนินการของผลิตภัณฑ์และบริการดังกล่าว
3.4 ติดต่อกับท่าน นำส่งเอกสารเพื่อการดำเนินการของผลิตภัณฑ์และบริการ และเพื่อจัดการความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับท่าน
3.5 การปรับเปลี่ยนการให้บริการให้สอดคล้องกับโปรไฟล์ของท่าน
3.6 การให้คำแนะนำและข้อเสนอแก่ท่านเกี่ยวกับสินค้า และ/หรือ บริการของบริษัทที่ท่านอาจสนใจ
3.7 การดำเนินการตามคำขอของท่านที่ส่งผ่านแบบฟอร์มของบริษัทผ่านทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันบนมือถือ เช่น การให้ใบเสนอราคาผลิตภัณฑ์ของบริษัท
3.7 การบริหารจัดการบริการของบริษัทสำหรับงานการดำเนินงานภายใน รวมถึงการวินิจฉัยปัญหาและการแก้ไขปัญหา การสอบบัญชี
3.9 การบริหารความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับท่าน
3.10 การตรวจสอบหรือยืนยันตัวตนของท่านเมื่อท่านเข้าสู่บัญชีบริษัท ออนไลน์หรือแอปพลิเคชัน เพื่อให้มั่นใจว่าการสื่อสารทั้งหมดของบริษัท กับท่านมีความปลอดภัยและเป็นความลับ
3.11 การดำเนินธุรกิจของบริษัท เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การตรวจสอบ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ การปรับปรุงหรือปรับเปลี่ยนบริการของบริษัท การดูแนวโน้มการใช้งานด้านบริการของบริษัท การดูประสิทธิภาพของแคมเปญส่งเสริมการขายของบริษัท การดำเนินงานและการขยายธุรกิจของบริษัท
3.12 การส่งข้อมูลทางด้านการบริหารธุรกิจให้กับท่าน เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการบริการ การเปลี่ยนแปลงของข้อกำหนด เงื่อนไขและนโยบายของบริษัท
3.13 การส่งข้อมูลทางการตลาดให้กับท่านและการแจ้งให้ท่านทราบถึงข้อเสนอเกี่ยวกับการส่งเสริมการขาย
3.14 การขอให้ท่านเข้าร่วมการสำรวจของบริษัท เพื่อให้บริษัทปรับปรุงและให้บริการแก่ท่านได้ดียิ่งขึ้น
3.15 การปฏิบัติตามข้อบังคับของหน่วยงานที่กำกับดูแลบริษัท
3.16 การจัดกิจกรรม และการสัมมนากับท่าน
3.17 ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับความเห็น หรือการร้องเรียนจากท่าน และเพื่อทำตามคำขอของท่าน
3.18 ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับผู้สมัครงาน และเพื่อติดต่อกับผู้สมัครงานกับบริษัท
3.19 เพื่อรักษาความปลอดภัย
3.20 การดำเนินการใด ๆ ที่บริษัทเชื่อว่าจำเป็นหรือเหมาะสม: (ก) เพื่อตรวจสอบ ป้องกันและตรวจจับการกระทำที่ผิดต่อกฎหมายหรือสงสัยว่าจะผิดกฎหมาย (ข) อยู่ภายใต้กฎหมายที่บังคับใช้ (ค) เพื่อปฏิบัติตามกระบวนการทางกฎหมาย รวมถึงการพิจารณาความ (ง) เพื่อตอบสนองต่อคำขอจากหน่วยงานรัฐบาล รัฐรวมถึงหน่วยงานของรัฐและรัฐบาลต่างประเทศที่ท่านอาศัยอยู่ (จ) เพื่อบังคับใช้ข้อกำหนดในการให้บริการและคำแถลงเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท (ฉ) เพื่อปกป้องการดำเนินงานของบริษัท (ช) เพื่อปกป้องสิทธิความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัยหรือทรัพย์สินของบริษัท ท่าน หรือบุคคลอื่น และ (ซ) เพื่อให้บริษัทสามารถหาวิธีการเยียวยา หรือจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
3.21 เมื่อท่านประสงค์คำนวณเบี้ยประกันภัยเบื้องต้น ก่อนเข้าทำสัญญาผ่านระบบสำหรับนายหน้าบุคคล (ธนาคาร) เพื่อจัดทำเอกสารเสนอขายและใบคำขอเอาประกันชีวิตแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Smart Banc) โดยอาศัยข้อมูลที่สามารถทำให้ระบุตัวตนของท่านได้ เช่น ชื่อ-นามสกุล รหัสประจำตัวประชาชน ช่องทางการติดต่อ บริษัท จะใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์ในการคำนวณเบี้ยประกันภัย รวมถึงจัดเก็บข้อมูลของท่านไว้ในระบบของบริษัท เพื่อวัตถุประสงค์ในการเข้าทำสัญญา หรือเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น
3.22 วัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่ไม่ได้กล่าวข้างต้น จะถูกระบุไว้เป็นการเฉพาะเมื่อบริษัทมีการขอข้อมูลของท่าน หรือเป็นการเก็บรวบรวมและใช้ตามข้อยกเว้นตามกฎหมาย
บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์ข้างต้นเท่านั้น เมื่อ:
- ท่านได้ให้ความยินยอมไว้กับบริษัท ตามกฎหมาย
- เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น
- เป็นการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
- เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจที่รัฐได้มอบหมายให้แก่บริษัท
- เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
- มีการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ โดยบริษัทจะจัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน
- เป็นการจำเป็นเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
เว้นแต่กฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับจะอนุญาตให้กระทำเป็นอย่างอื่น บริษัทจะขอความยินยอมจากท่าน หากบริษัทประสงค์จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกเหนือไปจากที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
4. วิธีการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล
การปกป้องความเป็นส่วนตัวของท่านถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับบริษัท โดยบริษัทมีนโยบายและกระบวนการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล และจำกัดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับเฉพาะบุคคลที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลของท่านในการจัดหาผลิตภัณฑ์และเพื่อการให้บริการ เช่น พนักงาน หรือตัวแทนของบริษัท ซึ่งบุคคลที่บริษัท อนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้น จะต้องยึดมั่นและทำการปกป้องตลอดจนและรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว บริษัทมีมาตรการการป้องกันทั้งทางกายภาพและทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการกำกับดูแลที่บังคับใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ในกรณีที่บริษัทเข้าทำสัญญากับผู้ให้บริการภายนอก หรือบุคคลที่สาม บริษัทกำหนดให้บุคคลเหล่านั้นจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานและนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม รวมถึงจะต้องจัดให้มีการดูแลรักษาข้อมูลและมีมาตรการที่เหมาะสม เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
5. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
5.1 บริษัทจะเก็บข้อมูลของท่านตราบเท่าที่จำเป็น โดยคำนึงถึงความจำเป็นและวัตถุประสงค์ที่จะต้องรวบรวมและประมวลผล ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ใช้บังคับ
5.2 บริษัทจะยังเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป แม้ว่าท่านจะยุติความสัมพันธ์กับบริษัท เท่าที่จำเป็นตามข้อกำหนดของกฎหมายเพื่อประโยชน์โดยชอบตามกฎหมาย หรือทำการเก็บในรูปแบบที่ทำให้ระบุตัวตนตัวบุคคลไม่ได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ในส่วนของการประกันภัยเป็นการเฉพาะ บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป แม้ระยะเวลาตามสัญญาประกันภัยสิ้นผลบังคับแล้วเป็นระยะเวลาระยะหนึ่ง ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาและอายุความตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัท จะทำการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในรูปแบบที่เหมาะสมตามประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปแม้จะพ้นกำหนดอายุความตามกฎหมายแล้ว เช่น กรณีที่มีการส่งเงินครบกำหนดเข้ากองทุนประกันชีวิต หรือกรณีอยู่ระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นต้น
5.3 กรณีที่ท่านเข้าสู่/เข้าใช้ พื้นที่อาคารสำนักงาน
(1) กรณี ภาพ/ภาพและเสียง ที่ถูกบันทึกผ่านกล้อง CCTV จะถูกเก็บรักษาเป็นระยะเวลา 60 วัน ทั้งนี้ เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ภาพ/ภาพและเสียงนั้นจะถูกลบโดยอัตโนมัติ และ
(2) กรณี ข้อมูลยืนยันตัวตนจากขั้นตอนการแลกบัตร บริษัทไม่มีการบันทึกข้อมูลใดๆ จากเอกสารแสดงตัวตนของท่าน และบริษัททำการคืนเอกสารแสดงตัวตนของท่านเมื่อท่านออกจากอาคารสำนักงานของบริษัท
5.4 กรณีตามข้อ 1.14 บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลท่านเป็นระยะเวลา 30 วัน และจะลบข้อมูลดังกล่าวนั้นเสีย หรือทำให้ข้อมูลดังกล่าวไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคลอีกต่อไป ทั้งนี้ เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดไว้
6. การเปิดเผยและการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
6.1 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคลระหว่างบริษัท
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับอีกบริษัทหนึ่งในกลุ่มหรือเครือเดียวกัน ทั้งนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าการใช้บริการของท่านจะเป็นประโยชน์และเป็นประโยชน์ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของบริษัท ในการให้บริการแก่ท่าน และเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดตามที่ได้อธิบายไว้ในถ้อยแถลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ บริษัทในเครือดังกล่าวจะดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเป็นอิสระ หรือในนามของบริษัทตามถ้อยแถลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างบริษัทกับพันธมิตรทางธุรกิจหรือบุคคลที่สาม
บริษัทมีการทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจหรือบุคคลที่สามที่ให้บริการในด้านต่าง ๆ แก่บริษัท เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การประมวลผลข้อมูล การดำเนินการด้านบัตรเครดิต การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง การพัฒนาแพลตฟอร์มบริการลูกค้า การส่งอีเมล/SMS การพัฒนาเว็บไซต์ การพัฒนาแอปพลิเคชันบนมือถือ การรับประกันภัยต่อ การสำรวจความพึงพอใจและการทำวิจัย และการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า โดย บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับพันธมิตรทางธุรกิจหรือบุคคลที่สามเพื่อให้พันธมิตรทางธุรกิจหรือบุคคลที่สามดังกล่าวสามารถช่วยบริษัท ให้บริการ/ส่งมอบการบริการของบริษัทตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในส่วน "วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล" ข้างต้น บริษัทดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองและพันธมิตรทางธุรกิจและบุคคลที่สามที่บริษัท เปิดเผยข้อมูลจะดำเนินการตามที่บริษัทกำหนด และจะไม่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์หรือผลประโยชน์ของบุคคลที่สามนั้นเอง มาตรการดังกล่าวอาจรวมถึงการทำสัญญากับพันธมิตรทางธุรกิจและบุคคลที่สามตามที่บริษัทเห็นสมควร
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีจำเป็นอื่น ๆ ซึ่งรวมถึง:
- การปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่ใช้บังคับ
- การปฏิบัติตามคำร้องขอจากหน่วยงานรัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐ หรือเพื่อการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย
- การตอบสนองต่อความปลอดภัยของบุคคลหรือสาธารณะ
- การดำเนินคดี การสืบสวน และเรื่องทางกฎหมายอื่น ๆ ที่มีข้อมูลส่วนบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้อง
- การตรวจสอบเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย
- การบังคับใช้ข้อกำหนดในการให้บริการของบริษัท
6.2 การโอน ถ่าย และ/หรือส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
ในกรณีที่บริษัท มีการโอน ถ่าย และ/หรือ ส่งข้อมูลไปยังต่างประเทศ บริษัทจะกำหนดมาตรฐานในการทำข้อตกลง และ/หรือ สัญญาร่วมธุรกิจกับหน่วยงาน องค์กรที่จะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้รับการคุ้มครองอย่างปลอดภัย
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกโอนไป ถูกจัดเก็บไว้ หรือประมวลผลในประการอื่นโดยบริษัท หรืออาจถูกส่งให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานใด ๆ ซึ่งอาจมีที่ตั้งหรืออาจให้บริการอยู่ในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทย ทั้งนี้ หากกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้กำหนดไว้ บริษัทอาจขอให้ท่านให้ความยินยอมต่อการโอนข้อมูลดังกล่าวออกนอกประเทศไทย ไปยังบุคคลภายนอกตามที่ระบุข้างต้น ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกโอนไปยังสถานที่ที่มีระดับการคุ้มครองความถูกต้องและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในระดับที่เพียงพอ
7. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
ในบางกรณี การขายสินค้าหรือบริการของบริษัท ตลอดจนการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของ บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ ศาสนา พฤติกรรมทางเพศ ความพิการ ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ เป็นต้น ซึ่งในกรณีเช่นว่าบริษัทจะขอความยินยอมจากท่านเพื่อเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลที่มีความอ่อนไหวนั้น บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบโดยชัดแจ้งเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการนั้นต่อไป เว้นแต่เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลที่มีความอ่อนไหวที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องได้รับความยินยอมตามกฎหมาย
8. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด
นอกจากวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้นและภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย บริษัทอาจจะใช้ชื่อและข้อมูลการติดต่อของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การจัดส่งเอกสารเกี่ยวกับโปรโมชั่นต่าง ๆ (ทางไปรษณีย์ อีเมล โทรศัพท์ และ/หรือด้วยวิธีการอื่น) และดำเนินการด้านการตลาดแบบตรง เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ที่ท่านจะได้รับจากการเป็นลูกค้าของบริษัท ผ่านการแนะนำของผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้อง
ท่านสามารถเลือกที่จะไม่รับการสื่อสารการตลาดจากบริษัทได้ อนึ่ง การได้รับการติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการเสริมที่บริษัทมีให้แก่ท่าน เช่น ใบแจ้งเตือนการชำระเบี้ยประกันภัยและใบเสร็จรับเงินเบี้ยประกันภัย ไม่ใช่การสื่อสารการตลาด
หากท่านประสงค์ที่จะไม่รับการสื่อสารการตลาดจากบริษัท
- ท่านสามารถเลือก การเลิกรับอีเมล หรือ SMS ที่เกี่ยวกับวัตถุประสงค์การตลาดเหล่านี้ได้โดยคลิกที่ลิงก์ยกเลิกการรับข้อมูล (unsubscribe) ที่ด้านล่างของอีเมล หรือ SMS ของบริษัท
- หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าทางโทรศัพท์ของบริษัท (Call Center) ที่เบอร์ 02 777 8888 หรือ email: call_center@bangkoklife.com
9. สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
9.1 สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท ซึ่งจะมีการกำหนดขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อยืนยันตัวตนจากท่านก่อน
9.2 สิทธิในการขอให้บริษัทดำเนินการปรับปรุงหรือแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้มีความถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
9.3 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการชั่วคราว
9.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน รวมถึงสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
9.5 สิทธิในการขอให้ดำเนินการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในรูปแบบที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
9.6 สิทธิในการถอนความยินยอมที่เคยให้แก่บริษัท ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไว้แล้ว
9.7 สิทธิในการขอทราบความมีอยู่ ลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคล และวัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ของบริษัท
9.8 สิทธิในการขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังท่าน หรือบุคคลหรือองค์กรอื่นตามที่ท่านกำหนด
9.9 สิทธิในการขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านในกรณีที่เป็นข้อมูลซึ่งท่านไม่ได้ให้ความยินยอมในการรวบรวมหรือจัดเก็บ
ท่านสามารถส่งคำร้องขอเข้าถึงข้อมูล ขอแก้ไข และข้อร้องเรียน หรือคำร้องขออื่น ๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าทางโทรศัพท์ของบริษัท (Call Center) โทร. 02 777 8888 หรืออีเมลมาที่ call_center@bangkoklife.com
ภายใต้กฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับ บริษัทอาจมีสิทธิเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล สำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับคำร้องขอในเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล หรือปฏิเสธการใช้สิทธิของท่านได้ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ หากบริษัทไม่สามารถดำเนินการตามคำขอของท่านได้ บริษัทจะทำการบันทึกการปฏิเสธคำขอพร้อมด้วยเหตุผลไว้
10. คุกกี้
คุกกี้ (Cookies) เป็นไฟล์ขนาดเล็กที่เว็บไซต์หรือผู้ให้บริการมีการส่งไปจัดเก็บในคอมพิวเตอร์ของท่านผ่านทางเว็บบราวเซอร์ (ถ้าท่านอนุญาต) ซึ่งช่วยให้ระบบของเว็บไซต์หรือผู้ให้บริการรู้จักบราวเซอร์ของท่าน และสามารถจับและจดจำข้อมูลบางอย่าง รวมถึงข้อมูลพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่าน อย่างไรก็ตามรหัสในไฟล์คุกกี้จะทำให้เว็บไซต์รู้เพียงว่าว่าท่านเป็นผู้ใช้โดยเฉพาะ แต่จะไม่สามารถระบุชื่อหรือที่อยู่หรือข้อมูลอื่นของท่านได้ เว้นแต่ท่านจะได้ให้ข้อมูลดังกล่าวแก่เว็บไซต์หรือตั้งค่ากำหนดในบราวเซอร์โดยอัตโนมัติ ซึ่งทำให้เมื่อท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท บริษัทจะเก็บข้อมูลของท่านผ่านทางคุกกี้หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายกันโดยอัตโนมัติ ท่านสามารถเลือกที่จะไม่ยอมรับคุกกี้โดยเปลี่ยนการตั้งค่าในบราวเซอร์ของท่าน ท่านสามารถเลือกให้คอมพิวเตอร์แจ้งเตือนท่านในแต่ละครั้งที่มีการส่งคุกกี้หรือท่านสามารถเลือกตั้งค่าไม่ให้ยอมรับการใช้คุกกี้ได้ โปรดศึกษานโยบายคุกกี้ (คลิก)
11. การเชื่อมโยงเว็บไซต์และการบริการอื่นๆ
นโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัท ใช้แค่กับเว็บไซต์ของบริษัทเท่านั้น บางส่วนของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัท อาจมีลิงก์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม เช่น เครือข่ายสังคม ซึ่งเว็บไซต์เหล่านั้นอาจไม่ได้ดำเนินการตามถ้อยแถลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ บริษัทไม่มีความรับผิดชอบต่อเว็บไซต์และบริการของบุคคลที่สาม หรือแนวทางปฏิบัติด้านข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สาม
12. การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัทมีการตรวจสอบ ประกาศความนโยบายเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ฉบับนี้อย่างสม่ำเสมอ หากบริษัทเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมประกาศฉบับนี้ บริษัทจะแจ้งคำแถลงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับปัจจุบันไว้ที่เว็บไซต์ของบริษัท เช่น กรณีมีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลใหม่ๆ
โปรดตรวจสอบหัวข้อ ประกาศ นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ที่เว็บไซต์ของบริษัท www.bangkoklife.com เพื่อให้แน่ใจว่าท่านทราบรายละเอียดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
ทั้งนี้ ในบางกรณี บริษัทอาจแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ด้วยวิธีการอื่นๆ
13. ช่องทางการติดต่อบริษัท
หากท่านมีคำถามหรือข้อสงสัย เกี่ยวกับคำแถลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ การจัดการดูแลข้อมูลของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายัง
ชื่อบริษัท | บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) |
ที่อยู่ | 1415 ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี แขวงวงศ์สว่าง เขต บางซื่อ กรุงเทพมหานคร 10800 |
เว็บไซต์ของบริษัท | www.bangkoklife.com |
ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าทางโทรศัพท์ของบริษัท (Call Center) | 02-777-8888 |
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล | ผู้บริหารสำนักกำกับการปฏิบัติงาน dpo@bangkoklife.com |
14. ช่องทางการติดต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจ
หากท่านต้องการรายงานเรื่องร้องเรียน หรือหากท่านรู้สึกว่าบริษัทไม่ตอบข้อกังวลของท่านในลักษณะที่น่าพึงพอใจ ท่านอาจติดต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล