ศิลปวัฒนธรรม
กรุงเทพประกันชีวิต สืบสานพุทธศิลป์เมืองอุบลฯ พาชมต้นเทียนพรรษางามล้ำ เทิดไท้พระบารมี
2018-07-28T00:00:00Z
จังหวัดอุบลราชธานี ได้ชื่อว่าเป็นนครแห่งธรรม และนครแห่งเทียน ที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว พาให้คนที่แวะไปเวียนมามีอันหลงใหลในมนต์เสน่ห์อย่างไม่รู้ลืม ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ประเพณีดั้งเดิม และยังเป็นหนึ่งในเมืองที่เผยแพร่พุทธศาสนาให้หยั่งรากลึกลงบนแผ่นดินไทยอีกด้วย ที่นี่จึงมีวัดวาอารามกว่าพันแห่งกระจายอยู่ทั่วทั้งจังหวัด อันเป็นที่มาของชื่อ “นครแห่งธรรม” นอกจากนั้นทุกปีจะมีการจัดขบวนแห่เทียนเข้าพรรษาอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา และสังฆบูชา ตามความเชื่อแบบฉบับชาวพุทธ จนเป็นที่เลื่องลือไปไกล เพราะไม่ใช่แค่การแห่เทียนธรรมดา แต่เป็นเทียนที่แกะสลักมาอย่างงดงาม และวิจิตรตระการตา ด้วยมันสมองและสองมือของภูมิปัญญาท้องถิ่นที่หาชมได้ยาก จนถูกเรียกขานว่าเป็น “นครแห่งเทียน”
ประเพณีแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี สืบทอดกันมาเป็นปีที่ 117 แล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในที่สุดของต้นตำรับงานบุญใหญ่ประจำปีในภาคอีสาน ที่พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศจำนวนมากเข้าร่วมงาน เพื่อสืบสานพุทธศิลป์เมืองอุบลฯกันอย่างคึกคักตลอดสองวันของการจัดงาน ระหว่างวันที่ 23-28 กรกฎาคม 2561 ณ บริเวณทุ่งศรีเมือง จ.อุบลราชธานี โดยปีนี้เกิดขึ้นจากแนวคิด “ฮีต ศรัทธา ราชธานีแห่งเทียน” และมีไฮไลต์เป็นการประกวดต้นเทียนและขบวนแห่เทียน ที่จัดขึ้นในวันที่ 28 กรกฎาคม 2561 จาก 13 วัดซึ่งมีทั้งประเภทแกะสลักและติดพิมพ์
มงคลชน ศิรินันท์วัฒน์ ผู้บริหารพัฒนาการตลาดสามัญ (ภาคอีสาน1) บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เล่าว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่ 6 แล้วที่กรุงเทพประกันชีวิตได้เข้ามามีส่วนร่วมกับวัดไชยมงคล ในการร่วมสร้างความสุข สืบสานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา อุบลราชธานี ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่กรุงเทพประกันชีวิตตั้งใจร่วมสืบสานประเพณีอันดีงามและศิลปวัฒนธรรมไทยนี้ไว้ให้คงอยู่ตราบนานเท่านาน โดยทุกปีวัดไชยมงคลจะส่งผลงานการแกะสลักต้นเทียนที่เกิดขึ้นจากภูมิปัญญาท้องถิ่นแท้ๆ รังสรรค์ผลงานด้วยการแกะสลักด้วยมือ 100 % เป็นประจำทุกปีและคว้ารางวัลมาครองได้ไม่เคยขาด
การแกะสลักเทียนพรรษาปีนี้ มีแรงบันดาลใจมาจากแนวคิด เทิดไท้พระบารมี “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร” ต้นเทียนของวัดไชยมงคลเป็นผลงานจากความตั้งใจและทุ่มเทแรงกายแรงใจของเหล่าช่างฝีมือกว่า 10 ชีวิต รับผิดชอบและออกแบบโดย นายเล็ก เวชภัณฑ์ ที่สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นในการสร้างและแกะสลักเทียนจากรุ่นสู่รุ่น โดยใช้เวลาเกือบ 2 เดือนโดยไม่มีการหล่อพิมพ์ ไม่มีการใช้วัสดุทดแทน และแกะสลักด้วยมือ 100% จนได้เป็นต้นเทียนขนาดใหญ่ที่มีความงามวิจิตรตระการตาด้วยความกว้างโดยรวมถึง 2.8 เมตร ความยาว 16.50 เมตร ลำต้นเทียนมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.6 เมตร และมีความสูงจากฐานถึงยอดสุด 3.5 เมตร
เพื่อถวายพระพรชัยมงคล และถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 66 พรรษา ต้นเทียนของวัดไชยมงคลสร้างสรรค์ขึ้นโดยนำเรื่องราวมหาเวศสันดรชาดก กัณฑ์ทศพรมาจัดสร้าง เพื่อสื่อให้เห็นถึงอานิสงส์ของการทำบุญให้สำเร็จดังตั้งใจ ผู้ทำบุญจะต้องมีศีลบริบูรณ์ คือ ไม่เพียงกระทำความดี แต่ยังต้องรู้จักรักษาความดีที่มีนั้นไว้ และจะต้องหมั่นเพิ่มพูนความดีให้มากยิ่งขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ด้านหน้าขบวนแกะสลักเป็นรูปพระอินทร์ประทานพร 10 ประการแด่พระนางผุสดี ซึ่งเป็นพระมเหสีของพระเจ้าสัญชัย ผู้ครองนครสีพีรัฐบุรี จากนั้นเป็นพระบรมรูปของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรทรงประทับยืนด้านหน้าเวชยันต์ปราสาท ส่วนด้านท้ายขบวนแกะสลักเป็นพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรทรงประทับยืนเท่าพระองค์จริง และทรงประทับนั่งบนพระราชอาสน์แท่นที่ประทับ ประดับประดาด้วยทวยเทพ พร้อมทั้งมีรูปสลักพญาครุฑนาคราช แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย
นอกจากนั้นต้นเทียนแกะสลักและติดพิมพ์จากอีก 12 วัดที่ส่งเข้าประกวดก็ยังมีความงดงามและวิจิตรตระการตา ที่ถ่ายทอดและสะท้อนถึงวิถีชีวิต ความคิด อารยธรรม รวมไปถึงกระแสสังคมของประเทศไทยในปัจจุบัน และยังมีบรรยากาศความสนุกสนานจากขบวนฟ้อนรำและขบวนกลองยาวแบบอีสานแท้ๆ ที่มาเติมเต็มอรรถรสของกิจกรรมครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี แต่หากพลาดโอกาสในการชมขบวนแห่เทียนนี้ไปก็ยังมีกิจกรรม “เทียนอุบล ยลได้ตลอดเดือน” ที่จะนำต้นเทียนทั้งประเภทแกะสลักและติดพิมพ์ ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ รองชนะเลิศ ไปจัดแสดงให้ได้ชม ณ บริเวณโดม วิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี จนถึงวันที่ 26 สิงหาคม 2561
ปีนี้กรุงเทพประกันชีวิตยังได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งความสุขและสืบสานประเพณีอันดีงามให้แก่ผู้เข้าร่วมชมงานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทั้งอำนวยความสะดวกแจกน้ำ พัด และหมวกคลายร้อนแก่ผู้เข้าร่วมงาน พร้อมทั้งมอบเทียนต้นใหญ่ให้ผู้คนได้ชม ตามแนวคิดกรุงเทพประกันชีวิต ชีวิตที่มีความสุขมากกว่า
ประเพณีแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี สืบทอดกันมาเป็นปีที่ 117 แล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในที่สุดของต้นตำรับงานบุญใหญ่ประจำปีในภาคอีสาน ที่พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศจำนวนมากเข้าร่วมงาน เพื่อสืบสานพุทธศิลป์เมืองอุบลฯกันอย่างคึกคักตลอดสองวันของการจัดงาน ระหว่างวันที่ 23-28 กรกฎาคม 2561 ณ บริเวณทุ่งศรีเมือง จ.อุบลราชธานี โดยปีนี้เกิดขึ้นจากแนวคิด “ฮีต ศรัทธา ราชธานีแห่งเทียน” และมีไฮไลต์เป็นการประกวดต้นเทียนและขบวนแห่เทียน ที่จัดขึ้นในวันที่ 28 กรกฎาคม 2561 จาก 13 วัดซึ่งมีทั้งประเภทแกะสลักและติดพิมพ์
มงคลชน ศิรินันท์วัฒน์ ผู้บริหารพัฒนาการตลาดสามัญ (ภาคอีสาน1) บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เล่าว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่ 6 แล้วที่กรุงเทพประกันชีวิตได้เข้ามามีส่วนร่วมกับวัดไชยมงคล ในการร่วมสร้างความสุข สืบสานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา อุบลราชธานี ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่กรุงเทพประกันชีวิตตั้งใจร่วมสืบสานประเพณีอันดีงามและศิลปวัฒนธรรมไทยนี้ไว้ให้คงอยู่ตราบนานเท่านาน โดยทุกปีวัดไชยมงคลจะส่งผลงานการแกะสลักต้นเทียนที่เกิดขึ้นจากภูมิปัญญาท้องถิ่นแท้ๆ รังสรรค์ผลงานด้วยการแกะสลักด้วยมือ 100 % เป็นประจำทุกปีและคว้ารางวัลมาครองได้ไม่เคยขาด
การแกะสลักเทียนพรรษาปีนี้ มีแรงบันดาลใจมาจากแนวคิด เทิดไท้พระบารมี “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร” ต้นเทียนของวัดไชยมงคลเป็นผลงานจากความตั้งใจและทุ่มเทแรงกายแรงใจของเหล่าช่างฝีมือกว่า 10 ชีวิต รับผิดชอบและออกแบบโดย นายเล็ก เวชภัณฑ์ ที่สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นในการสร้างและแกะสลักเทียนจากรุ่นสู่รุ่น โดยใช้เวลาเกือบ 2 เดือนโดยไม่มีการหล่อพิมพ์ ไม่มีการใช้วัสดุทดแทน และแกะสลักด้วยมือ 100% จนได้เป็นต้นเทียนขนาดใหญ่ที่มีความงามวิจิตรตระการตาด้วยความกว้างโดยรวมถึง 2.8 เมตร ความยาว 16.50 เมตร ลำต้นเทียนมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.6 เมตร และมีความสูงจากฐานถึงยอดสุด 3.5 เมตร
เพื่อถวายพระพรชัยมงคล และถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 66 พรรษา ต้นเทียนของวัดไชยมงคลสร้างสรรค์ขึ้นโดยนำเรื่องราวมหาเวศสันดรชาดก กัณฑ์ทศพรมาจัดสร้าง เพื่อสื่อให้เห็นถึงอานิสงส์ของการทำบุญให้สำเร็จดังตั้งใจ ผู้ทำบุญจะต้องมีศีลบริบูรณ์ คือ ไม่เพียงกระทำความดี แต่ยังต้องรู้จักรักษาความดีที่มีนั้นไว้ และจะต้องหมั่นเพิ่มพูนความดีให้มากยิ่งขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ด้านหน้าขบวนแกะสลักเป็นรูปพระอินทร์ประทานพร 10 ประการแด่พระนางผุสดี ซึ่งเป็นพระมเหสีของพระเจ้าสัญชัย ผู้ครองนครสีพีรัฐบุรี จากนั้นเป็นพระบรมรูปของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรทรงประทับยืนด้านหน้าเวชยันต์ปราสาท ส่วนด้านท้ายขบวนแกะสลักเป็นพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรทรงประทับยืนเท่าพระองค์จริง และทรงประทับนั่งบนพระราชอาสน์แท่นที่ประทับ ประดับประดาด้วยทวยเทพ พร้อมทั้งมีรูปสลักพญาครุฑนาคราช แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย
นอกจากนั้นต้นเทียนแกะสลักและติดพิมพ์จากอีก 12 วัดที่ส่งเข้าประกวดก็ยังมีความงดงามและวิจิตรตระการตา ที่ถ่ายทอดและสะท้อนถึงวิถีชีวิต ความคิด อารยธรรม รวมไปถึงกระแสสังคมของประเทศไทยในปัจจุบัน และยังมีบรรยากาศความสนุกสนานจากขบวนฟ้อนรำและขบวนกลองยาวแบบอีสานแท้ๆ ที่มาเติมเต็มอรรถรสของกิจกรรมครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี แต่หากพลาดโอกาสในการชมขบวนแห่เทียนนี้ไปก็ยังมีกิจกรรม “เทียนอุบล ยลได้ตลอดเดือน” ที่จะนำต้นเทียนทั้งประเภทแกะสลักและติดพิมพ์ ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ รองชนะเลิศ ไปจัดแสดงให้ได้ชม ณ บริเวณโดม วิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี จนถึงวันที่ 26 สิงหาคม 2561
ปีนี้กรุงเทพประกันชีวิตยังได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งความสุขและสืบสานประเพณีอันดีงามให้แก่ผู้เข้าร่วมชมงานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทั้งอำนวยความสะดวกแจกน้ำ พัด และหมวกคลายร้อนแก่ผู้เข้าร่วมงาน พร้อมทั้งมอบเทียนต้นใหญ่ให้ผู้คนได้ชม ตามแนวคิดกรุงเทพประกันชีวิต ชีวิตที่มีความสุขมากกว่า
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2567 บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
