ม.ล. จิรเศรษฐ ศุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 กรุงเทพประกันชีวิตมีเบี้ยประกันรับปีแรกจำนวน 1,277 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 17 จากไตรมาส 1 ปี 2562 โดยเป็นผลจากการลดลงของช่องทางธนาคาร ในขณะที่มีการเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันรับปีแรกในช่องทางช่องทางตัวแทนและช่องทางอื่นๆ อย่างไรก็ตามในภาพรวมเบี้ยประกันรวมของไตรมาสที่ 1 ปี 2563 มีจำนวน 10,057 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4 เป็นผลของการลดลงของเบี้ยประกันรับปีแรกในช่องทางธนาคาร
บริษัทมีสินทรัพย์รวม ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2563 จำนวน 337,050 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ร้อยละ 4 โดย สินทรัพย์ลงทุนมีสัดส่วนสูงที่สุดคือร้อยละ 94 ในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิ 230 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 82 จากกำไรสุทธิของไตรมาส 1 ปี 2562 โดยสาเหตุหลักเนื่องมาจากในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีการปรับปรุงนโยบายการตั้งสำรองค่าเผื่อความผันผวน (PAD: Provision for Adverse Deviation) เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย ทางด้านความมั่นคงของฐานะทางการเงิน บริษัทมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio – CAR) ณ ไตรมาส 1 ปี 2563 ที่ระดับร้อยละ 266 โดยมาจากการคำนวณตามหลักเกณฑ์การคำนวณเงินกองทุนของบริษัทประกันชีวิต (RBC II) ซึ่งเป็นการปรับปรุงให้มีความเข้มงวดมากขึ้นกว่าเดิม
ในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 นี้บริษัททำการตลาดในช่องทางจำหน่ายแต่ละช่องทาง โดยเฉพาะในช่องทางตัวแทนจำหน่าย ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีแบบประกันด้านสุขภาพที่ครอบคลุมความต้องการต่างๆ รวมถึงการออกแบบประกันใหม่ที่คุ้มครองด้านโรคร้ายแรง BLA Smart CI แบบประกันโรคร้ายแรงแนวคิดใหม่ที่เปิดตัวพร้อมนวัตกรรมแอปพลิเคชัน BLA Healthy Life ซึ่งจะสะสมคะแนนจากการเดินเป็นส่วนลดเบี้ยประกันของ BLA Smart CI ในปีต่อไป หรือใช้กับสิทธิประโยชน์ด้านต่างๆ ได้ แบบประกัน BLA Smart CI เป็นแบบประกันที่ช่วยให้คนดูแลสุขภาพและคุ้มครองหากเกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงต่างๆ
บริษัทฯ ยังได้มอบความคุ้มครองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19) ให้กับลูกค้ากรุงเทพประกันชีวิตที่ถือกรมธรรม์คุ้มครองสุขภาพ โดยจะได้รับค่าชดเชยรายวัน 2,000 บาท นานสูงสุด 15 วัน หากเจ็บป่วยด้วยการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 และต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยการคุ้มครองมอบให้ถึง 31 พฤษภาคม 2563 ทั้งนี้เพื่อช่วยบรรเทาความกังวลของลูกค้าและช่วยเพิ่มความคุ้มครองให้ครอบคลุมมากขึ้น บริษัทยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ด้านแผนการลงทุนคู่ความคุ้มครองผ่านที่ปรึกษาการเงินของบริษัท เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านการเงินให้ประชาชนทุกกลุ่ม