กรุงเทพประกันชีวิต รณรงค์ลดการใช้ทรัพยากร ส่งเสริมให้ผู้เอาประกันรับเอกสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมมอบความสุขสู่สังคมผ่านโครงการ “ดีต่อใจ...สะดวกสบายทุกสถานการณ์” ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2563 - 30 กันยายน 2564 โดยมอบเงินสมทบทุนสำหรับทุกการสมัครรับเอกสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ในระยะเวลาของโครงการ จำนวน 208,230 บาท สนับสนุนการสร้างศูนย์วิทยาศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล เพื่อเป็นศูนย์ศึกษาและผลิตงานวิจัยตลอดจนส่งเสริมสุขภาพและดูแลผู้ป่วยสูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน เมื่อเร็ว ๆ นี้
นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “กรุงเทพประกันชีวิตให้ความสำคัญต่อการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการมอบบริการที่สะดวกสบายเข้าถึงง่ายในทุกช่องทาง เราจึงได้ริเริ่มโครงการที่สนับสนุนแนวคิดทั้งสองด้าน โดยส่งเสริมให้ผู้เอาประกันภัยหันมาใช้บริการรับเอกสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์แทนการใช้กระดาษ ซึ่งลูกค้าเองก็สามารถเก็บและเข้าถึงเอกสารได้สะดวกง่ายทุกที่ทุกเวลาผ่านอีเมล หรือแอปพลิเคชัน BLA Happy Life โดยสำหรับทุก ๆ การสมัครรับเอกสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ กรุงเทพประกันชีวิตจะนำไปสมทบทุนเป็นเงินบริจาคในการสร้างศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เพื่อร่วมดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน ตามแนวทางความยั่งยืนที่บริษัทได้สนับสนุน”
โครงการ “ดีต่อใจ..สะดวกสบายทุกสถานการณ์” เป็นการรณรงค์ให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากการแจ้งความประสงค์โดยระบุใบคำขอรับกรมธรรม์ประกันชีวิตอิเล็กทรอนิกส์ (e-Policy) 1 กรมธรรม์ เท่ากับได้ร่วมสมทบทุน 30 บาท และใบเสร็จรับเงินเบี้ยประกันภัยรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) 1 ฉบับ เท่ากับได้ร่วมสมทบทุน 2 บาท โดยตลอดระยะเวลาของโครงการได้มีผู้เอาประกันภัยสมัครรับ e-Policy จำนวน 1,716 กรมธรรม์ และ e-Receipt จำนวน 78,375 ฉบับ ลดการใช้ทรัพยากรกระดาษรวมกว่า 100 กิโลกรัม และคิดเป็นยอดเงินสมทบทุนบริจาคจำนวน 208,230 บาท
นอกจากนี้ กรุงเทพประกันชีวิตยังได้ต่อยอดความสำเร็จของโครงการ พร้อมยกระดับสู่การจัดทำแคมเปญสุดพิเศษ “70 ปี กรุงเทพประกันชีวิต ร่วมลด....ได้ลุ้น” เพื่อเฉลิมฉลองการเข้าสู่ทศวรรษที่ 7 ของบริษัท และสนับสนุนให้ผู้เอาประกันภัยเลือกใช้บริการด้านกรมธรรม์ผ่านระบบออนไลน์ของบริษัทได้อย่างสะดวกปลอดภัย พร้อมมอบสิทธิ์ลุ้นรางวัลรวมมูลค่ากว่า 3.8 ล้านบาท เมื่อทำธุรกรรมผ่านระบบบริการออนไลน์ที่ร่วมรายการ ไม่ว่าจะเป็นการชำระค่าเบี้ยประกันภัย การขอรับกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Policy) การขอรับใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) การขอเปลี่ยนข้อมูลกรมธรรม์ ขอกู้กรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Loan) ตลอดจนขอรับเอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ผ่านระบบออนไลน์ของบริษัท โดยเปิดโครงการถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2565 และจับรางวัลวันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม 2565 นี้
ในย่างก้าวปีที่ 71 นี้ กรุงเทพประกันชีวิตพร้อมเดินหน้าสร้างความมั่นคงทางการเงินแก่ประชาชน พัฒนาองค์กรให้เป็น Digital Insurance แบบครบวงจร และสนับสนุนความยั่งยืนของสังคม ดูแลสิ่งแวดล้อม ดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาล สู่การเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืน